โกงกาง
โกงกางใบเล็ก
ชื่อพื้นเมือง : โกงกาง (ระนอง), โกงกางใบเล็ก (ภาคกลาง), พังกาทราย (กระบี่), พังกาใบเล็ก (พังงา)
ชื่อวงศ์ : RHIZOPHORACEAE
ลักษณะ : ไม้ต้นขนาดใหญ่ มีรากเสริมออกมาเหนือโคนต้น รากค้ำยันลำต้นแตกแขนงระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ใบคู่ล่างๆ จะร่วงไปเหลือแต่คู่ใบ 2-4 คู่ เป็นกลุ่มที่ปลายกิ่ง รูปรี แผ่นใบหนา หูใบแคบ ปลายแหลมยาวประกบกันเป็นคู่ระหว่างคู่ใบ ช่อดอกสั้นมาก ออกตามง่ามใบที่ใบร่วงไปแล้ว ดอกตูมรูปไข่ ใบประดับที่ฐานดอกติดกันคล้ายรูปถ้วย กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ ร่วงง่าย ผลคล้ายรูปไข่กลับสีน้ำตาลคล้ำ ผิวค่อนข้างขรุขระ ลำต้นใต้ใบเลี้ยงรูปทรงกระบอก เรียวโค้งเล็กน้อย มีขนาดโตขึ้นที่ส่วนปลาย ผิวเป็นมัน สีเขียวหรือเขียวอมม่วง ค่อนข้างเรียบหรือมีตุ่มขรุขระกระจัดกระจาย
ประโยชน์ : ใช้ทำเสาและหลักในที่น้ำทะเลขึ้นถึง มีความทนทาน ใช้ทำกลอนหลังคาจาก รอด ตง อกไก่ของบ้านตามชายทะเล ใช้ทำถ่าน เปลือกให้น้ำฝาดประเภท catechol ให้สีน้ำตาล ใช้ย้อมผ้า แห อวน หนัง ฯลฯ น้ำจากเปลือกใช้ชะล้างแผล ห้ามเลือด กินแก้ท้องร่วง แก้บิด
ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว เรียงตัวแบบตรงข้ามกัน ใบแต่ละคู่จะออกสลับทิศทางกัน (Opposite decussate) ขนาดกว้าง 3-8 ซม. ยาว 7-18 ซม. หรือเล็กกว่า ขอบใบเรียบ ใบหนาเป็นมัน รูปใบมน (Elliptic) ค่อนไปทางรูปใบหอก ฐานใบสอบเข้าหากันคล้ายรูปลิ่ม (Cuneate) ปลายใบแหลม (Acute) หรือเป็นติ่ง (Apiculate) สีดำ มองเห็นชัดเจน ก้านใบยาว 1.5-3 ซม. หูใบสีแดงเข้ม ยาว 4-8 ซม. หุ้มใบอ่อนไว้ ใบเกลี้ยงทั้งหน้าใบและหลังใบมีจุดสีน้ำตาล
ดอก เป็นดอกช่อแบบ Cymes ช่อหนึ่งมี 2 ดอกย่อยอยู่ชิดกันแตกออกจากซอกใบตรงปลายกิ่ง ที่ฐานดอกย่อยมีใบประดับ (bracteole) รูปถ้วยรองรับ เมื่อแห้งจะมีลักษณะแข็ง กลีบเลี้ยง (calyx) มี 4 กลีบ สีเขียวอมเหลือง แข็งอวบ ยาว 10-14 ซม. โคนกลีบติดกัน ปลายกลีบแยกเป็นแฉกรูปไข่ ปลายแหลมและยังคงติดอยู่จนเป็นผล กลีบดอก (Petal) มี 4 กลีบ เป็นแผ่นบาง ๆ สีขาวรูปใบหอก ยาว 8-11 มม. ไม่มีขน ร่วงเร็ว เกสรตัวผู้ (Stamen) มี 12 อัน ยาว 0.6-0.75 ซม. เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน รังไข่ แบบ half-inferior มี 2-3 ห้อง (locule) แต่ละห้องมี 2 ovule จะออกดอกประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม ผลแก่ประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม (ไพศาล, 2532)
ผล เป็นผลแบบ Drupebaceous มีลักษณะเป็นทรงกลมคล้ายไข่ (conicalovoid) เมื่อแก่จะไม่แตก (indehiscent) เปลือกของผลหยาบสีน้ำตาล มีส่วนของกลีบเลี้ยงติดอยู่ ภายใน 1 ผล มี 1 เมล็ด ซึ่งเมล็ดไม่มีการพักตัว จะเจริญต่อไปในขณะที่ผลยังติดอยู่บนต้นแม่ จัดเป็น (Viviparous seed) เมล็ดจะงอกส่วนของradicle แทงทะลุออกมาทางปลายผล ตามด้วยส่วนของต้นอ่อน (Hypocotyl) ซึ่งเจริญยาวออกเรื่อย ๆ มีลักษณะปลายแปลมยาว สีเขียว หรือเรียกโดยทั่วไปว่า ฝัก ยาวประมาณ 30-40 ซม. ผลแก่ประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม เมื่อผลแก่ คัพภะ (embryo) จะหลุดออกจากเปลือกผลปักลงดินเลนก็จะงอกทันที แต่ถ้าหล่นลงขณะน้ำทะเลขึ้นก็จะลอยไปตามน้ำ และมีชีวิตประมาณ 2 เดือน เมื่อเกยตื้นหรือติดอยู่กับที่จะงอกทันที (ไพศาล, 2532)
โกงกางใบใหญ่
ชื่อพื้นเมือง : กงกอน (เพชรบุรี, ชุมพร), โกงกางนอก กงกางนอก (เพชรบุรี), กงเกง (นครปฐม),
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhizophora mucronata Poir.
ชื่อวงศ์ : RHIZOPHORACEAE
ชื่อสามัญ : Red Mangrove
ลักษณะ : ไม้ต้นขนาดใหญ่ มีรากเสริมออกมาเหนือโคนต้น รากค้ำยันแตกแขนงระเกะระกะ เรือนยอดรูปกรวยคว่ำแคบๆ ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ใบคู่ล่างๆ จะหลุดร่วงไปเหลือกลุ่มใบที่ปลายกิ่ง ใบรูปรีถึงรีกว้าง มีติ่งแหลมเล็ก แข็ง สีดำ ที่ปลายใบ แผ่นใบหนา มีจุดเล็กๆ สีดำกระจัดกระจายทั่วไปทางด้านล่าง ช่อดอกออกตามง่ามใบที่ใบติดอยู่หรือร่วงไป ดอกตูมรูปไข่ มีใบประดับรองรับที่ฐานดอก กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ ร่วงง่าย ผลคล้ายรูปไข่ปลายคอดสีน้ำตาลอมเขียว ลำต้นใต้ใบเลี้ยงรูปทรงกระบอก เรียว ค่อนข้างตรง ปลายเรียวแหลมยาว ผิวเป็นมัน สีเขียว มีตุ่มขรุขระทั่วไป
ประโยชน์ : ใช้ทำเสาและหลักในที่น้ำทะเลขึ้นถึง มีความทนทาน ใช้ทำกลอนหลังคาจาก รอด ตง อกไก่ของบ้านตามชายทะเล ใช้ทำถ่าน เปลือกให้น้ำฝาดประเภท catechol ให้สีน้ำตาล ใช้ย้อมผ้า แห อวน หนัง ฯลฯ น้ำจากเปลือกใช้ชะล้างแผล ห้ามเลือด กินแก้ท้องร่วง แก้บิด
ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว เรียงตัวแบบตรงข้ามกัน ใบแต่ละคู่จะออกสลับทิศทางกัน (Opposite decussate) รูปใบมน (elliptic) ค่อนไปทางรูปหอก ขนาดกว้าง 5-13 ซม. ยาว 8-18 ซม. ปลายใบแหลม (Acute) หรือเป็นติ่งแข็ง (Apiculate) ฐานใบสอบเข้าหากันคล้ายรูปลิ่ม (Cuneate) ก้านใบยาว 2.5-5.5 ซม. หูใบสีแดงเข้ม ยาว 5-9 ซม. หุ้มใบอ่อนไว้ หน้าใบมัน หลังใบเรียบเกลี้ยง หน้าใบสีเขียวอ่อน หลังใบสีเขียวอมเหลือง หลังใบมีจุดสีน้ำตาลเห็นได้ชัด
ดอก เป็นดอกช่อแบบ Cymes แต่ละช่อประกอบด้วยดอก 2-12 ดอก สีขาวอมเหลือง กลีบรอบกลีบดอกมี 4 กลีบ รูปไข่ โคนติดกัน กลีบดอกรูปใบหอก ยาวประมาณ 1 ซม. ขอบกลีบดอกมีขนยาวขึ้นปกคลุม เกสรตัวผู้มี 8 อัน ยาว 0.5-0.8 ซม.
ผล เป็นผลแบบ Drupebaceous มีลักษณะเป็นทรงกลมคล้ายไข่ (conicalovoid) เป็นผลแบบที่งอกก่อนผลร่วง (Viviparous) โดยส่วนใต้ใบเลี้ยงในเมล็ด (Hypocotyl) จะงอกยื่นยาวออกมาคล้ายฝัก เมื่อผลแก่ส่วนคล้ายฝักนี้จะยาวประมาณ 36-90 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางส่วนที่โตที่สุดประมาณ 1.5-3 ซม.
ราก โกงกางใบใหญ่มีรากค้ำจุนขนาดใหญ่งอกจากลำต้นเป็นจำนวนมาก








