วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

^_เกาะในประเทศไทย_^


เกาะช้าง-จังหวัดตราด
เกาะช้าง จัดว่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะภูเก็ต มีเนื้อที่ประมาณ 429 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเขาสูงมีผาหินสลับซับซ้อน ยังเป็นเกาะที่มีทรัพยากรธรรมชาติ สมบูรณ์อยู่มาก เนื่องได้ประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างมาช้านานแล้ว จึงยังคงเหลือให้เห็นภาพความงดงามของหมู่เกาะ ผืนทะเล ป่าเขา สายน้ำ ยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก
มาถึงปัจจุบันนี้กระแสการท่องเที่ยวได้รุกข้ามยังหมู่เกาะมากขึ้น กลุ่มทุนใหญ่ได้รุกคืบเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อสร้างที่พักโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย หากเดินทางไปตามรอบเกาะช้างจะเห็นการประกาศขายที่ดินกันมากมาย ดังนั้นที่ดินของชาวบ้านดั้งเดิมได้ถูกเปลี่ยนมือไปเป็นกลุ่มทุนใหญ่ที่มีกำลังเงินในลงทุนบนผืนเกาะแห่งนี้
อ่าวสลักเพชรและเทือกเขาบนเกาะช้าง มองจากจุดชมวิว บนถนนตัดใหม่ สิ่งที่สำคัญที่ตอบสนองกลุ่มทุนและการท่องเที่ยว คือ ถนนรอบเกาะช้าง ที่ถูกตัดไปตามผืนป่าอุทยานแห่งชาติด้วย คาดว่าอีกไม่นานถนนรอบเกาะคงเสร็จสมบูรณ์ มันคงไม่ต่างไปจากเกาะสมุย เกาะภูเก็ต เกาะลันตา และสิ่งที่ตามมาคือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองกระแสการท่องเที่ยวจะมีมากขึ้น ที่ดินราคาสูงขึ้น การบุกรุกพื้นที่ป่ามีมากขึ้น แหล่งน้ำเหือดแห้ง ผู้คนมากมาย ถึงวันนี้ เกาะช้างได้ก้าวสู่เส้นทางการเติบโตในด้านการท่องเที่ยว เมื่อมีถนนบนตัวเกาะแล้ว ดังนั้นย่อมมีเรือเฟอร์รี่นำพาผู้คนและยานยนต์ข้ามไปยังเกาะช้าง ทำให้การท่องเที่ยวสะดวกสบายมากขึ้น จึงกลายเป็นเส้นทางขับขี่รถยนต์ท่องเที่ยวบนเกาะช้างที่น่าสนใจอีกเส้นทางหนึ่ง
เกาะช้าง จ.ตราด อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ๓๑๕ กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ ๒ ,๘๑๙ ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดชายแดนทางภาคตะวันออกของประเทศไทย แบ่งการปกครองออกเป็น ๕ อำเภอ กับ ๒ กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอเขาสมิง อำเภอแหลมงอบ อำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ กิ่งอำเภอเกาะกูด และกิ่งอำเภอเกาะช้าง
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เป็นอุทยานแห่งชาติที่ ประกอบด้วยเกาะต่างๆประมาณ 47 เกาะ และมีเกาะที่มีลักษณะเป็นหินโผล่ขึ้นมาเหนือทะเลอีกจำนวนมาก เกาะช้าง เป็นเกาะที่มีพื้นที่มากที่สุด มีเนื้อที่ประมาณ 268,125 ไร่ อุทยานแห่งชาติหมู่ เกาะช้าง มีเนื้อที่รวมทั้งเกาะและน่านน้ำตลอดชายฝั่ง ประมาณ 650 ตารางกิโลเมตร หรือ 406,250 ไร่

อ่าวและ หาดที่สำคัญ บนเกาะช้าง
อ่าวคลองสน อยู่ทางเหนือของเกาะช้าง เป็นอ่าวขนาดใหญ่มีหาดทรายขาวละเอียดทอดขนาดไปกับป่าสน ที่อ่าวคลองสน ยังคงรูปแบบของชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านที่ทำสวนมะพร้าว อ่าวคลองสน มีชายหาดอยู่ถึงสองด้าน เป็นอ่าวที่มีปะการัง และหากน้ำลง จะปรากฏหาดทรายขาว สะอาด กว้างยาว และมีความปลอดภัย คลองสนยังเป็น ชายหาดที่กว้างยาว สวยงาม ปลอดภัย แก่การเล่นน้ำ มีความเป็นส่วนตัว ผู้คนไม่พลุก
หาดทรายขาว : เป็นชายหาดที่ยาว และขาวสะอาด จึงได้ชื่อว่า หาดทรายขาว และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ที่พักบนหาดทรายขาวส่วนใหญ่ จะเป็นที่พักราคาประหยัด หาดทรายขาว ยังมีถนนราดยางอย่างดี ขนานยาวไปกับชายหาด เชื่อมถึงหาดอื่นๆ ยามค่ำคืน ปรากฏสีแสงของร้านอาหาร ร้านเหล้า ผับเล็กๆ ชายหาด เล่นน้ำได้ตลอดแนว ที่หาดทรายขาว นักท่องเที่ยวยังสามารถเช่าจักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์ ขี่เล่นได้ หาดทรายขาว ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งบนเกาะช้าง
หาดคลองพร้าว อยู่ถัดจากหาดทรายขาว ซึ่งเป็นหาดที่ยาวมาก ไปจนติดหาดไก่แบ้ หาดคลองพร้าว เป็นหาดที่ มีความลาดมากเล่นน้ำได้ดี สามารถทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาริมหาดได้ เพราะมีหน้าหาดที่กว้าง และสะอาด นอกจากนั้นทางตอนเหนือสุดของเกาะ เป็นที่ตั้งของแหลมไชยเชษฐ์ ซึ่งเป็นแหลมหินแปลกตา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากหาดหนึ่งที่เกาะช้าง
หาดไก่แบ้ เป็นหาดที่ยาวต่อมาจากหาดคลองพร้าว เป็นหาดยอดนิยมหาดหนึ่ง ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่พักมีทั้งแบบราคาประหยัด จนไปถึงบ้านพักอย่างดี หาดไก่แบ้เป็นหาดที่เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย ท่านสามารถเช่าจักรยานขี่ไปเที่ยวหาดอื่นๆ ที่อยู่ติดกันเช่นหาดคลองพร้าว หาดทรายขาว หาดไก่แบ้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก ในช่วงเวลาน้ำทะเลลงมาก ตามรีสอร์ทต่างๆที่หาดไก่แบ้ ยังมีบริการพาไปดำน้ำ ที่เกาะหยวก เกาะมันนอก มันใน ซึ่งอยู่ไม่ไกล จากหากไก่แบ้อีกด้วย
อ่าวใบลาน อยู่ถัดขึ้นไปจากหาดไก่แบ้มีทางเท้าตัดผ่านภูเขาใช้เวลาเดินเท้าจากหาดไก่แบ้ประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทิวเขา อ่าวใบลานมีลักษณะเป็นหาดทรายยาวเงียบสงบเหมาะแก่การเล่นน้ำ และพักผ่อน
หาดบางเบ้า เป็นหมู่บ้านประมงที่น่าสนใจ บ้านพักอาศัยปลูกโดยปักเสาลงในทะเล มีสะพานเชื่อมติดต่อถึงกันโดยตลอด ทำให้ท่านสามารถ หาสถานที่ตกปลาได้เป็นอย่างดี แต่มีพื้นที่เล่นน้ำได้เฉพาะบางรีสอร์ทเท่านั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมงดักหมึก มีบังกะโลที่พัก และแหล่งปะการังใต้น้ำ
ท่าเรือด่านเก่า อยู่ถัดขึ้นไป จากท่าเรือด่านใหม่ ชายหาด ไม่เหมาะจะลงเล่นน้ำ แต่เหมาะสำหรับตกปลา เพราะเป็นหาดดิน ด้านหลังชุมชนบ้านด่านเก่า จะมีแหล่งน้ำจืดของเกาะ ด่านเก่า มักจะเป็นจุดผ่านไปยังหาดอื่นๆ

เกาะเต่า-จังหวัดสุราษฎร์ธานี
Kohtao " เกาะเต่า " เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่กลางอ่าวไทยเป็นตำบลหนึ่งของ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี  พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเป็นภูเขาอยู่ห่างจากเกาะพะงันประมาณ 45 กิโลเมตร ในอดีตเกาะเต่าเคยเป็นสถานที่คุมขังนักโทษการเมืองเช่นเดียวกับเกาะตะรุเตา เกาะเต่า เมื่อครั้งอดีตแต่ก่อนกาลรัฐบาล นายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรีของไทยในสมัยนั้น เกาะเต่า ได้เป็นที่จองจำคุมขังนักโทษทางการเมือง โดยมีการขนถ่ายนักโทษจาก เกาะตะรุเตามายัง เกาะเต่า ผ่าน เกาะสมุย และ เกาะพะงัน เพียงเพราะด้วยเหตุผลกลัวจะมีการชิงนักโทษทางการเมืองกลุ่มนี้จากอังกฤษเกิดขึ้น ช่วงที่นักโทษถูกคุมขังอยู่ที่นี่ (เกาะเต่า ) ได้มีข่าวกล่าวขานกันถึงความโหดร้ายของผู้คุมนักโทษทำให้นักโทษต้องล้มตาย และป่วยด้วยอาหารและยาไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพที่ เกาะเต่า ต่อมา นายควง อภัยวงศ์ ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นักโทษเหล่านั้นได้รับการอภัยโทษ และ เกาะเต่า ได้ถูกปล่อยร้างทิ้งไว้ ต่อมาได้มีชาวบ้านได้เข้าไปอาศัยทำมาหากินตั้งรกราก และ เกาะเต่า ก็ได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวจนถึงปัจจุบัน เกาะเต่า มีสัณฐานคล้ายเม็ดถั่ว
ลักษณะเว้าเป็นอ่าวอยู่มากมาย ถึง 11 อ่าว แหลม 10 แหลม บนเกาะมีถนนคอนกรีตสายหลัก 1 สายจากหัวเกาะถึงท้ายเกาะความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร นอกนั้นจะเป็นถนนดินที่แต่ละบังกะโลจัดสร้างขึ้น ตลอดแนวชายฝั่งของเกาะ ซึ่งยาว 28.6 กม. มีแนวปะการังยาวถึง 8 กิโลเมตร สภาพปะการังมีความกว้างเฉลี่ยถึง 200 เมตร บน เกาะเต่า มีบังกะโลท้องถิ่นประมาณเกือบ 100 แห่ง กระจายอยู่ตาม ชายหาดต่างๆ

Kohtao เกาะเต่า เป็นเกาะที่มีความงามมากที่สุดเกาะหนึ่งของอ่าวไทยโดเฉพาะแนวปะการัง และจุดดำน้ำที่ท้าทายนักดำน้ำทั่วโลกจึงไม่แปลกที่ เกาะเต่า เป็นที่ตั้งของโรงเรียนดำน้ำมากมาย ฝั่งตะวันตกของ เกาะเต่า " หาดทรายรี " เป็นหาดที่ยาวที่สุด มีที่พักมากที่สุด และเป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านแม่หาด แหล่งที่มีที่พักค่อนข้างมากอีกแห่งคือทางตอนใต้ของเกาะหรือที่ชาวบ้านเรียก " โฉลกบ้านเก่า " เป็นสถานที่ที่มีจุดชมวิวที่สวยที่สุดเรียกว่าจุดชมวิว " จอห์นสุวรรณ " บริเวณนี้จะมีหาดทรายเล็กๆ อยู่ตามอ่าวต่างๆมากมายเหมาะสำหรับว่ายน้ำและมีจุดดูฉลามอยู่บริเวณอ่าวเทียนออก  ส่วนท้ายของเกาะนี้อยู่ค่อนข้างห่างจากแหล่งชุมชน การเดินทางต้องรถรับจ้าง หรือเช่ามอเตอร์ไซค์ห่างจาก เกาะเต่า ไปประมาณ 1 ก.ม. จะเป็นที่ตั้งของ เกาะนางยวน เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีหาดทรายขาวทอดยาวถึงกันทั้ง 3 เกาะ เกาะนางยวน เป็นหมู่บ้านหนึ่งขึ้นกับตำบล เกาะเต่า ซึ่ง เกาะนางยวน นี้มิอาจทราบได้ถึงที่มาของชื่อ เกาะนางยวน สอบถามชาวบ้านรุ่นเก่าๆ บน เกาะเต่า ได้ความว่า ที่มาของชื่อ เกาะนางยวน นั้น คือ แต่ก่อนเป็นเกาะที่ใช้สำหรับฝังศพของชาวญวน ที่อพยพมาอาศัยอยู่ที่ เกาะเต่า และเมื่อตายก็จะนำไปฝังไว้ให้เป็นที่ ณ เกาะนางยวน ไม่เฉพาะชาวญวนเท่านั้นคนที่ เกาะเต่า ก็เช่นกัน ถ้ามีการตายก็จะนำศพไปฝังไว้ที่ เกาะนางยวน เหตุที่เรียก เกาะนางยวน เพราะมีศพของชาวญวนมากกว่า สำหรับศพคนไทยก็จะมีการนำขึ้นฝั่งแผ่นดินใหญ่ เพื่อไปประกอบกิจพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป จะจริงเท็จแค่ไหนลองใช้วิจารณญาณให้ดี ณ ปัจจุบันรู้แต่เพียงว่า เกาะนางยวน มีความสวยงามมากเหมาะแก่การมาเยือนยิ่งนัก ได้ชื่อว่ามีความงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก การเดินทางจาก เกาะเต่า ใช้เวลา 10-15 นาที แม้ว่า เกาะเต่า จะเป็นเกาะที่อยู่ไกลจากฝั่งมากที่สุดในบรรดาเกาะต่าง ๆ ในย่านนี้ แต่ระยะทางก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ เพราะความงาม และเสน่ห์ของน้ำทะเลสีเขียวเข้ม ตัดกับหาดทรายขาวและแนวปะการังสีสด 
 ตลอดจนความชุกชุมของฝูงปลาที่แหวกว่ายมาให้ชมอย่างใกล้ชิดได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนคนแล้วคนเล่า จากในอดีตที่ต้องนั่งเรือนานข้ามคืน จนปัจจุบันมีเรือเร็วให้ไปถึง เกาะเต่า ในเวลาเพียง 2 ชม. เท่านั้น หรือจะเดินทางมาจาก เกาะสมุย หรือ เกาะพะงัน ก็แสนสะดวกสบาย เกาะเต่า ในวันนี้จึงกลายเป็นหนึ่ง ในเกาะยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรอนแรมข้ามน้ำข้ามทะเลมาเยี่ยมเยือน
            นอกจากหาดทรายที่สวยงามแล้ว ลึกลงไปใต้ผืนน้ำของ เกาะเต่า ยังมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ทั้งปะการังน้ำตื้นและน้ำลึก ผู้ที่มาเที่ยวเกาะเต่า ร้อยละ 90 จึงมีเป้าหมายในการดำน้ำเพื่อชื่นชความงามของโลกใต้ทะเล มีการเปิดโรงเรียนสอนดำน้ำหลายหลัสูตรเพื่อสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวนับสิบ ๆ แห่ง โดยมีใบรับรองจากสถาบันดำน้ำนานาชาติที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก จนปัจจุบัน เกาะเต่า ได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่มีโรงเรียนสอนดำน้ำมากที่สุดในประเทศไทย และที่สำคัญคือคิดค่าเรียนถูกที่สุดในโลก
            นักท่องเที่ยวควรมีเวลา 2-3 วันสำหรับการเที่ยวรอบ ๆ เกาะเต่า และ เกาะนางยวน ซึ่งอยู่ใกล้กันมาก  ย่านที่พักใหญ่ที่สะดวกในการเดินทางมีสามจุดใหญ่ ได้แก่ อ่าวแม่หาด หาดทรายรี และอ่าวโฉลกบ้านเก่า ถ้าไปพักหาดอื่น ๆ ต้องให้เจ้าของที่พักติดต่อเหมาเรือให้ เพราะภูมิประเทศส่วนใหญ่ของ เกาะเต่า เป็นภูเขาชัน บางหาด ไม่มีถนนเข้าถึง เมื่อเดินทางไปถึง เกาะเต่า จะมีเจ้าของบังกะโลมารอรับนักท่องเที่ยวตามเวลาเรือเข้าแม้ว่า เกาะเต่า จะยังขาดแคลนสาธารณูปโภคพื้นฐาน แต่ที่พักทุกแห่งก็ปั่นไฟใช้เอง ส่วนน้ำจืดนั้นอุดมสมบูรณ์มาก เพราะมีป่าเขียวขจีช่วยอุ้มน้ำไว้ แม้ เกาะนางยวน ก็ต้องขนน้ำไปจาก เกาะเต่า บนเกาะมีสถานีอนามัยและสถานีตำรวจอยู่บริเวณบ้านแม่หาด
เกาะเต่า เกาะสวรรค์ กลางทะเล อ่าวไทย
เกาะเต่า สถานที่ท่องเที่ยว และ แหล่งดำน้ำที่สวยงามแห่งท้องทะเลอ่าวไทย ที่พึ่งจะเป็นที่รู้จักของ นักท่องเที่ยว ชาวไทย เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศแล้วชื่อของ เกาะเต่า กล่าวได้ว่าเป็นสวรรค์ของการดำน้ำที่นักดำน้ำทั่วโลกรู้จักดีในความงดงาม และความมีสีสันของโลกใต้ทะเลที่ไม่แพ้ที่แห่งใดในโลก
เกาะเต่า ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 2 เกาะ คือ เกาะเต่า และ เกาะนางยวน พื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นภูเขามีพื้นที่ราบอยู่เพียง 30%ของตัวเกาะ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 17.96 ตารางกิโลเมตร หรือ 12,225 ไร่ กว้าง 3.4 กิโลเมตร  ยาว 7.6 กิโลเมตร มีด้วยกัน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านหาดทรายรี บ้านแม่หาด และ บ้านโฉลก บ้านเก่า และด้วยระยะห่างจากปากน้ำชุมพร 85 กิโลเมตร ห่างจาก อ่าวบ้านดอน สุราษฎร์ธานี 120 กิโลเมตร และห่าง เกาะพะงัน ซึ่งถือเป็น เกาะ ที่อยู่ใกล้ที่สุด 45 กิโลเมตร นั่นก็ทำให้ เกาะเต่า กลายเป็น เกาะกลาง ทะเลหลวง ที่ค่อนข้างจะโดดเดี่ยวโดยแท้
เกาะเต่า มีรูปร่างคล้าย เมล็ดถั่ว แต่บ้างก็ว่ามีลักษณะคล้ายตัว เต่า มี เกาะนางยวน เป็นหางจึงเป็นที่มาของชื่อเกาะ ลักษณะของ เกาะเต่า จะมีเว้าแหว่งของอ่าวอยู่มากมายมีความงดงามตามธรรมชาติ ด้วยอ่าวถึง 11 อ่าว และ แหลม 10 แหลม ตลอด แนวชายฝั่ง ของ เกาะ ซึ่งยาว 28.6 กิโลเมตร รวมทั้งเป็น เกาะ ที่มี แนวปะการัง  ยาวถึง 8 กิโลเมตร อยู่โดยรอบ เกาะเต่า แม้จะอยู่ในทะเลด้านที่รับ ลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดผ่านมาในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือน มีนาคม แต่ก็มีเกาะน้อยใหญ่ช่วยกำบังคลื่นลมให้อยู่บ้าง นักท่องเที่ยจึงสามารถเดินทางไป เกาะเต่า ได้ตลอดปี
บน เกาะเต่า มี บังกะโลกระจายอยู่ตามชายหาดต่างๆ มีบริการ รถจี๊ป รถมอเตอร์ไซต์ และ จักรยานเสือภูเขา ให้เช่า รวมทั้ง บริการเรือเช่า และ อุปกรณ์ดำน้ำ ตอนกลางวันจะไม่ค่อยพบเห็นนักท่องเที่ยว เพราะส่วนใหญ่จะนั่งเรือออกไป ดำน้ำ กันตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับเข้าฝั่งก็เย็นย่ำ สถานที่ท่องเที่ยว และจุดที่น่าสนใจบน เกาะเต่า โดยส่วนใหญ่จุดท่องเที่ยว ของ เกาะ จะเป็นจุด ดำน้ำ ซึ่งจะมีทั้งจุด ดำน้ำลึก และ ดำน้ำตื้น ซึ่งถ้าคุณเพียงต้องการชื่นชมธรรมชาติรอบเกาะแวะลง เล่นน้ำ ดำน้ำ ชมปะการัง 
คุณก็สามารถเลือก โปรแกรมท่องเที่ยว รอบเกาะได้ภายใน 1 วัน ซึ่งคุณสามารถใช้ บริการเรือเช่า หรือ เรือแท็กซี่ ซึ่งมีอยู่มากมายบริเวณ ท่าแม่หาด
            แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการ ดำน้ำลึก แล้ว ระยะเวลาเพียง 1 วัน คงไม่พอที่จะให้คุณ ได้ค้นหาความงามของ โลกใต้ทะเล ที่นี่ เพราะรอบๆ เกาะเต่า จะมีจุด ดำน้ำลึก (scuba) ให้คุณ พบความแตกต่างอยู่มากมาย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ ระยะเวลา 3-4 วัน น่าจะได้ความ อิ่มเอมมากกว่าส่วนเรื่องของอุปกรณ์การดำน้ำ และการฝึกการ ดำน้ำ ลึก สำหรับผู้ที่ ไม่เป็นสำหรับที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะจะมีร้านให้ เช่าอุปกรณ์ และ โรงเรียน สอนดำน้ำ อยู่มากมาย ให้คุณได้เลือกเรียนหลากหลายหลักสูตรจนจบ ได้ ใบรับรอง จาก สถาบันดำน้ำ ที่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งคุณสามารถจะไป ดำน้ำ ในที่แห่งใดก็ได้ทั่วโลก
           สำหรับจุดท่องเที่ยวหรือจุดดำน้ำ บน เกาะเต่า มีจุด ดำน้ำ ชม ปะการัง อยู่หลายจุดด้วยกัน แต่ละจุดก็มี โลกใต้ทะเล ที่มี ความงดงาม แตกต่างกันไปไม่ว่าที่ อ่าวลึก แหลมเทียน กองหินวง อ่าวมะม่วง กงทรายแดง หรือ เกาะฉลาม ที่วันดีคืนดี นักดำน้ำ ก็สามารถเห็นฉลาม ขนาด 2-3 เมตร ฝูงละประมาณ 7-8 ตัว ว่ายแวะเวียนมาให้ชมกัน ส่วนจุดท่องเที่ยวทางบกนอกจาก ชายหาด มากมายที่อยู่รอบ เกาะ ก็ยังมีจุดที่น่าสนใจและถือเป็น แหล่งท่องเที่ยว ที่สวยงามที่สุดจุดหนึ่งของ เกาะเต่า ซึ่ง นักท่องเที่ยว มักจะแวะ ไปเที่ยว ชมก็คือ สวนหิน จปร. ทางด้าน ตะวันตก ของ เกาะ ซึ่งมี โขดหิน รูปร่างประหลาดๆ อยู่หย่อมหนึ่ง และมีรอยจารึกทาง ประวัติศาสตร์ ถึงการ เสด็จประพาส เกาะเต่า ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ด้วยการจารึก พระปรมาภิไธย จปร. ไว้ให้เป็นที่ปรากฏอยู่จนตราบเท่าทุกวันนี้ และรวมถึง จุดชมวิว จอห์น-สุวรรณ ที่ โฉลกบ้านเก่า เกาะเต่า ด้าน ทิศใต้ จะเห็น อ่าวโฉลกบ้านเก่า และ อ่าวเทียนออก ซึ่งมีเว้า อ่าว เกือบติดกันคล้ายกับ เกาะพีพีดอน ที่ จ.กระบี่ ที่ นักท่องเที่ยว หากมีโอกาสเดินทางไป เกาะเต่า ไม่ควรพลาดทีเดียว และอีก เกาะ เล็กๆที่อยู่ทาง ทิศเหนือ ของ เกาะเต่า นั่นคือ เกาะนางยวน ประกอบกันด้วย เกาะเล็กเกาะน้อย 3 เกาะ ที่เชื่อมต่อกันด้วสันทรายสีขาว จนบางครั้งยามน้ำลง ก็สามารถเดินถึงกัน และกลายเป็นเกาะเดียวต่อเนื่องกันไปได้ สภาพธรรมชาติ โดยรอบ ประกอบด้วย ดงปะการังอันอุดมสมบูรณ์อยู่ภายใต้ ท้องทะเล สีเขียว มรกต จึงนับเป็น แหล่งที่เหมาะกับการเล่นน้ำ และ การดำน้ำ ดูปะการังเป็นอย่างยิ่งนอกจากนี้เกาะนางยวนยังมีจุดชมวิวที่นับว่าสวยงามและคุ้มค่ากับการปีนขึ้นไปชมอีกด้วย โดยอยู่บนยอดเกาะแห่งหนึ่งซึ่งใหญ่เป็นลำดับสองในจำนวน 3 เกาะ ของเกาะนางยวนใช้เวลาในการเดินขึ้นไป ราว 20 นาที ซึ่งเมื่อปีนขึ้นไปถึงข้างบนแล้วจะเป็นลานหินกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง สำหรับนั่งชมวิวได้เป็นอย่างดี และมุมมองแห่งนี้ อาจนับได้ว่าเป็นมุมมองที่สวยที่สุดของ เกาะนางยวน ก็ว่าได้โดยเมื่อมองย้อนกลับลงมา ก็จะเห็นสันทรายสีขาว ทอดตัวยาวเหยียด เชื่อมต่อ เกาะ อีก 2 เกาะ เข้าด้วยกันใน ท่ามกลาง น้ำทะเลสีเขียวเข้มที่รายล้อมอยู่โดยรอบ อย่างงดงามยิ่งนัก ณ หาดทรายแดง จากจุดนี้สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้น ระหว่างเกาะเต่า และเกาะหินเล็กๆ ชื่อ กงทรายแดง ได้อย่างสวยงาม เป็นจุดดำน้ำ(ลึก) ที่เลื่องชื่ออีกจุดหนึ่ง และจุดดำดูฉลาม  นายท้ายเรือบอกว่ามีอยู่สัก 7-8 ตัว ยาวประมาณ 1-2 วา ไม่มีอันตราย เพราะตัวไม่ใหญ่มากนัก ไม่ทำร้ายคน
          ความงดงามของธรรมชาติทั้งโลกเหนือ และ ใต้ทะเล ของ เกาะเต่า เหล่านี้ ด้วยระยะทางที่ห่างจากผืนฝั่อยู่พอสมควร ส่วนหนึ่งจึงเป็นเหมือนปราการช่วยรักษาความเป็น ส่วนตัว ให้กับ เกาะ นี้ได้คงความเป็น ธรรมชาติ ตราบนาน แต่ขณะเดียวกันความห่างไกลนี้เองที่เป็นมนต์เสน่ห์เชิญชวนให้ นักท่องเที่ยว ผู้รักสงบต่างฝันที่จะมาเยือน เกาะ แห่งนี้สักหน่อย
 หมู่เกาะสิมิลัน-จังหวัดพังงา

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เป็นอุทยานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2525 ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 128 ตารางกิโลเมตร และในปี พ.ศ. 2541 ได้ผนวกรวมเกาะตาชัย ทำให้มีพื้นที่ทั้งหมด 140 ตารางกิโลเมตร

สิมิลัน เป็น ภาษามลายู แปลว่า เก้า เป็นที่มาของการเรียกชื่อ หมู่เกาะทั้งเก้าเกาะ ได้แก่ เกาะบอน เกาะบางู 
เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมี่ยง เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยง แต่ที่เรียกกันของชาวเรือ จะเรียกนับจากใต้ไปเหนือ ตามลำดับ เกาะหนึ่ง เกาะสอง เกาะสาม เกาะสี่ เกาะห้า เกาะหก เกาะเจ็ด เกาะแปด (เกาะสิมิลัน) และเกาะเก้า หมู่เกาะสิมิลัน ได้รับประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ครอบคลุมพื้นที่เกาะและห้วงน้ำทะเลรอบเกาะที่มีปะการังสมบูรณ์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นเนื้อที่ประมาณ 128 ตร.กม. ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 99 ตอนที่ 123 ลงวันที่ 1 ก.ย. 2525 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 43 ของประเทศไทย โดยรวมเกาะบอนซึ่งอยู่ตอนเหนือของเกาะบางูเข้าไปด้วย และต่อมาได้ผนวกพื้นที่เกาะตาชัย เนื้อที่ 12 ตร.กม.เข้าเป็นอุทยานแห่งชาติเข้าไปอีก รวมพื้นที่อุทยานฯทั้งสิ้น 140 ตร.กม.

ปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล

       แนวปะการังหมู่เกาะสิมิลันเกือบทั้งหมดเป็นแนวปะการังน้ำลึก ไม่มีขอบแนวที่แน่นอน ด้านติดฝั่งเป็นพื้นทรายก่อนลาดเอียงสู่ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว มีปะการังอยู่เป็นกลุ่ม ไม่กระจัดกระจายเหมือนแนวปะการังทั่วไป มีความหลากหลายของชนิดปะการังมาก เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังลายดอกไม้ ปะการังหนวดถั่ว ปะการังลูกโป่งเล็ก ปะการังสีส้ม ปะการังดอกเห็ด ปะการังสมอง ปะการังนิ้วมือ ฯลฯ  สัตว์น้ำในกลุ่มของปลาในหมู่เกาะสิมิลันพบมากมีความหลากชนิดถึง 110 ชนิด ได้แก่ ฉลามวาฬ  โรนัน กระเบนราหู ปลาอมไข่ ปลากะรัง ปลากะพง  ปลาสีกุน ปลาสร้อยนกเขา ปลาโนรี ปลาผีเสื้อ ปลานกขุนทอง ปลาสาก ปลาวัว และปลาปากแตร เป็นต้น

แหล่งท่องเที่ยว
เกาะหนื่ง(เกาะหูยง)  อยู่ทางตอนใต้สุดของหมู่เกาะสิมิลัน โดยมีแนวหาดทรายขาวละเอียดอยู่ทางด้านหน้าเกาะ น้ำทะเลใสสะอาด น่าเล่นแต่ชายหาดด้านหน้าเกาะหนึ่งหันหน้ารับลม ทำให้กระแสคลื่นลมค่อนข้างรุนแรง ยากแก่การขึ้นไปสัมผัสความงดงาม ทางธรรมชาติ แต่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศแบบส่วนตัว จุดชมวิวที่นี่สวยงามไม่แพ้เกาะแปด บนเกาะนี้เป็นเกาะที่เต่าทะเลมาวางไข่ แต่ปัจจุบันเหลือน้อยมเต็มที สาเหตุหลักก็มาจากมนุษย์นี่เอง

เกาะสี่(เกาะเมี่ยง) เป็นเกาะใหญ่อันดับสอง รองจากเกาะสิมิลัน หาดทรายด้านหน้าเกาะสี่ด้านซ้ายสุด จะว่ายไปจากริมหาด หรือเดินป่าไปเล็กน้อยก็ได้สังเกตุได้ง่าย เกาะสี่เป็นแหล่งว่ายน้ำที่ดีเพราะนอกจากหาดทรายที่ขาวแล้ว ยังเปํนเวิ้งอ่าวเป็นแอ่งกระทะที่ค่อนข้างชัน สีน้ำทะเลจะออกเป็นสิมรกต และเม็ดทรายก็ขาวละเอียด ด้านหัวแหลมทิสตะวันออก เราสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสวยงาม  ด้านหลังของเกาะมีเส้นทางทะลุไปยังหาดเล็ก ซึ่งเป็นแนวชายหาดด้านหลังเกาะสี่ซึ่งเป็นจุดที่น่าท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง ที่นี่มีแนวปะการังน้ำตื้น ที่นี่ ถือได้ว่าเกาะสี่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ มากที่สุด ได้แก่ ที่พักแรม ที่กางเต็นท์ได้ ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องน้ำห้องสุขา ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติ แต่ที่นี่จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ดังนั้น ในฤดูท่องเที่ยว เราควรจองที่พักแต่เนิ่นๆ

เกาะเจ็ด เกาะบางู เกาะหัวกะโหลก เป็นที่รู้จักกันดี ในนามเกาะหัวกะโหลก เพราะลักษณะของกองหินกลางน้ำที่คล้ายหัวกะโหลก สภาพใต้น้ำของเกาะนี้นับได้ว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และมีความลึกที่แตกต่างกันไปหลายระดับชั้น สภาพเหมือนหุบเขาใต้น้ำที่เต็มไปด้วยปะการัง และหุบเหวลึกน่ากลัว ที่นี่เป็นแหล่งดำน้ำลึกทีจัดว่าสวยงามมาก ถ้าโชคดีอาจได้เห็นปลาโลมา

เกาะแปด (เกาะสิมิลัน) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด สัญลักษณ์ ที่เด่นคือ ก้อนหินคล้ายรูปเรือใบ และเป็นเกาะเดียวที่มีลำธารขนาดเล็กไหลผ่าน น้ำทะเลที่นี่ค่อนข้างลึก ใต้น้ำอุดมไปด้วยปะการัง กัลปังหา พัดทะเล  และกุ้งมังกร ความสวยงามยังมีอยู่ที่ น้ำใส หาดทรายสวย ปะการังหลากสี เกาะสิมิลันจะมีอ่าวเล็กๆ  อยู่ทางตะวันตก อ่าวที่นี่มีลักษณะโค้งคล้ายรูปเกือกม้า ด้านทิศเหนือของเกาะ มีแหล่งปะการังเขากวาง ปะการังดอกเห็ดขนาดใหญ่ นอกจากนี้บนเกาะยังมีทางเดินเท้าเพื่อศึกษาธรรมชาติ จากอ่าวเกือกม้าไปยังอ่าววงช้างระยะทาง 2.5 กม.อีกด้วย แต่ควรมีเจ้าหน้าที่นำทางเพราะเป็นป่าดงดิบรกทึบ

           บนเกาะนี้มีหาดทรายละเอียดราวกับแป้ง น้ำทะเล(ดังรูป) ใสสะอาดเหมาะแก่การว่ายน้ำและดำน้ำเป็นทีสุด มีต้นไม้ใหญ่เป็นร่มเงาได้อย่างดี จุดสูงสุดของ หมู่เกาะสิมิลันอยู่ที่นี่ ถึงแม้จะมีป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ลำธารไหลผ่าน แต่แหล่งน้ำจืดก็มีจำนวนจำกัด ที่นี่ไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวกางเต้นท์ ไม่มีบ้านพักนักท่องเที่ยว เหมือนเกาะสี่ มีแต่ที่ทำการอุทยานฯ บ้านพักของเจ้าหน้าที่ ร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำเท่านั้น (ต้องทำใจไว้หน่อยครับ ถ้าไปช่วงเทศกาล) น้ำอาจไม่พอ
เกาะตาชัย เป็นเกาะโดดเดี่ยว อยู่ระหว่าเกาะสิมิลันและหมู่เกาะสุรินทร์ ประกอบไปด้วยหาดทราย
ยาวเหยียดขาวสะอาดและป่าไม้ร่มรื่นครึ้ม แต่ไม่มีน้ำจืดบนเกาะนี้ ที่นี่จัดได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งหนึ่ง
ของการดำน้ำลึก ปัจจุบันเกาะนี้ถูกจัดเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะสิมิลัน
หมู่เกาะพีพี-จังหวัดกระบี่
หมู่เกาะพีพี เป็นหมู่เกาะกลางทะเล อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 42 กิโลเมตร เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่าปูเลาปิอาปิคำว่า ปูเลาแปลว่าเกาะ คำว่า ปิอาปิแปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า ต้นปีปีซึ่งภายหลังกลายเสียงเป็น พีพีซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการังดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม นอกจากนั้นยังมีเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือ กระบี่-ภูเก็ต-หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละเกาะมีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลอันดามัน ด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่สวยงามตามธรรมชาติ รอบๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ ภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้นๆ ถ้ำที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดยาวสะอาด สุสานหอย มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 242,437.17 ไร่ หรือ 387.90 ตารางกิโลเมตร

      ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2520 ให้จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดที่รัฐบาลพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยว มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง สมควรอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวรต่อไป กองอุทยานแห่งชาติ จึงเสนอกรมป่าไม้ให้มีคำสั่งที่ 1261/2523 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2523 ให้ นายสันติ สีกุหลาบ นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปทำการสำรวจพื้นที่ เพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติทางทะเล ในท้องที่จังหวัดภูเก็ตและติดต่อจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจากการรายงานการสำรวจปรากฏว่า พื้นที่บริเวณ เกาะพีพี และหมู่เกาะใกล้เคียง ระหว่างจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ มีความเหมาะสมที่จะจัดเป็นอุทยาน-แห่งชาติ ตามหนังสือรายงานผลการสำรวจลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2524 และป่าไม้เขตนครศรีธรรมราชได้มีหนังสือที่ กส.0709(นศ)/269 ลงวันที่ 19 มกราคม 2525 แจ้งว่า ป่าบริเวณหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะใกล้เคียง รวมถึงหมู่เกาะพีพีในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีทิวทัศน์ และธรรมชาติสวยงาม  เห็นสมควรจัดเป็นอุทยานแห่งชาติอีกแห่งหนึ่ง
     กรมป่าไม้จึงมีคำสั่งที่ 524/2525 ลงวันที่ 14 เมษายน 2525 ให้ นายสมจิตร สภาวรัตน์ภิญโญ นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปทำการสำรวจ และจัดตั้งบริเวณหมู่เกาะพีพี และป่าบริเวณหาดนพรัตน์ธารา ท้องที่อำเภอเมือง จังหวักระบี่ เป็นอุทยานแห่งชาติ และกองอุทยานแห่งชาติเห็นสมควร ทำการสำรวจบริเวณสุสานหอย 75 ล้านปี ท้องทีอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ อีกแห่งหนึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียวกัน ผลการสำรวจตามหนังสือรายงาน ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2525 สรุปได้ว่า พื้นที่ตามแหล่งต่างๆ มีความสวยงามเป็นพิเศษ มีลักษณะเด่นหลายแห่ง มีทิวทัศน์ทางทะเลสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนของประชาชนทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ

       กองอุทยานแห่งชาติจึงได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และมีมติเห็นชอบเมื่อ 15 มิถุนายน 2525 ในการประชุมครั้งที่ 1/2525 โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินสุสานหอย 75 ล้านปี หาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลหนองทะเล ตำบลอ่าวนาง ตำบลไสไทย และตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เนื้อที่ประมาณ 243,725 ไร่ หรือ 389.96 กิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 100 ตอนที่ 160 ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2526 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 47 ของประเทศไทย

       ต่อมาได้ดำเนินการผนวกพื้นที่บริเวณสุสานหอย และเกาะใกล้เคียง เพิ่มจำนวน 12.17 ไร่ หรือ 0.02 ตารางกิโลเมตร ตามพระราชกฤษฎีกา เล่ม 113 ตอนที่ 65 ก ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2539 และต่อมาได้เพิกถอนพื้นที่บางส่วนในบริเวณเขาหางนาค ในท้องที่ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พื้นที่ 1,300 ไร่ หรือ 2.08 ตารางกิโลเมตร เพื่อใช้ในราชการกองทัพเรือ ตามพระราชกฤษฎีกา เล่ม 115 ตอนที่ 72ก ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2541 คงเหลือพื้นที่ทั้งหมด 387.90 ตารางกิโลเมตร


:: แหล่งท่องเที่ยว ::

อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ ในทะเลอันดามันด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ เป็นอุทยานทางทะเลที่สวยงามตามธรรมชาติ รอบๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ ภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้นๆ ถ้ำที่สวยงาม ชายหาดยาวสะอาด สุสานหอย ตลอดจนหมู่เกาะต่างๆ

        จากคำบอกเล่าเดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะพีพีนี้ว่า ปูเลาปิอาปิคำว่า ปูเลาแปลว่าเกาะ คำว่า ปิอาปิแปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่ง จำพวกแสมและโกงกาง ต่อมาเรียกว่า ต้นปีปีซึ่งภายหลังกลายเป็น พีพีซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ ส่วนใหญ่เพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้น้ำ มวลพืช และสัตว์เล็กๆ ที่จับกลุ่มเป็นอาณาจักรสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล หมู่เกาะพีพีประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะปิด๊ะนอก เกาะปิด๊ะใน เกาะยูง และเกาะไม้ไผ่ อยู่ห่างจากชายฝั่งกระบี่ ประมาณ 42 กิโลเมตร ลักษณะโดยทั่วไป เป็นเวิ้งอ่าวรูปครึ่างวงกลมอยู่ในวงล้อมของภูเขาหินปูนที่สูงชัน จนเกือบเป็นทะเลใน หรือที่ชาวเกาะเรียกว่า ปิเละนับเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของหมู่เกาะแห่งนี้
:: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::

สุสานหอย บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นหอยขม มีขนาดยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกัน โดยมีน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่ชั้นหินลิกไนท์ และหินดินดาน นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่'ของโลก ช่วงแรกประมาณกันว่า สุสานหอยแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อ 75 ล้านปีมาแล้ว ต่อมาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการค้นพบหลักฐานด้านธรณีวิทยามีมากขึ้น จึงกำหนดอายุของสุสานหอยใหม่เหลือประมาณ 40-20 ล้านปี

หาดนพรัตน์ธารา เดิมชาวบ้านเรียกว่า "หาดคลองแห้ง" เพราะช่วงน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือ จะแห้งขอด กลายเป็นหาดทรายขาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็กๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงราย ตามชายหาดทะเล มองออกไปในพื้นน้ำมีทิวทัศน์ของเกาะแก่ง ช่วงน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไปยังเกาะเล็กๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หาดนพรัตน์ธารา ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ของหอยชักตีน ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ เพียง 17 กิโลเมตร เท่านั้น

อ่าวนาง ในบริเวณอ่าวเต็มไปด้วยเกาะแก่ง มีทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตากว่าหาดอื่นๆ เพราะด้านหนึ่งของอ่าว เป็นภูเขา มีถ้ำหินงอก หินย้อย เรียกว่า ถ้ำพระนาง ภายในถ้ำจะเป็นหินงอก หินย้อย สลับซับซ้อนเป็นชั้นๆ และมีหาดทรายที่สวยงาม ได้แก่ หาดไร่เลย์ หาดถ้ำพระนาง หาดน้ำเมา ซึ่งหาดทั้ง 3 แห่งนี้ ไม่สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้เนื่องจากมีภูเขากั้น การเดินทางเข้าถึงต้องเช่าเรือจากอ่าวนาง นอกจากนี้บริเวณหน้าอ่าวนาง ยังมีเกาะน้อยใหญ่ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะปอดะ ซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันไป แล้วแต่มุมมอง หรือจินตนาการของผู้พบเห็น ที่ผ่านมาบางคนก็เห็นว่าเหมือนหัวไก่ รองเท้าบู๊ท และเรือสำเภา

หมู่เกาะปอดะ อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวพระนาง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร ทำให้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมไม่มากนัก เมื่อมองจากชายฝั่งจะเห็นทรายขาวได้แต่ไกล บริเวณรอบๆ เกาะจะมีแนวปะการังหลากหลายชนิด น้ำทะเลใสสะอาด ทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่น่าสนใจ ที่สามารถแวะมาเที่ยวชมเกือบตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดปรากฎการณ์ในช่วงน้ำลงบริเวณเกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ จะเชื่อมต่อกันโดยแนวทราย ทำให้เกิดทัศนยภาพที่สวยงาม ดูแปลกตา เรียกว่า ทะเลแหวกซึ่งขณะนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม จากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและ ทิศตะวันออก มีหาดทรายสวยงามและแนวปะการัง ซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของตัวเกาะ

เกาะยูง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดซึ่งเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่างๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์
เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชัน ตั้งฉากกับพื้นผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา และอ่าวโละซะมะ
เกาะพีพีดอน มีพื้นที่ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร ทางเหนือของเกาะคือ แหลมตง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเล ประมาณ 15-20 ครอบครัว ส่วนใหญ่อพยพมาจากเกาะลิเป๊ะ จังหวัดสตูล บริเวณแหลมตงนี้ธรรมชาติใต้ทะเลสวยงามมาก เหมาะแก่การดำน้ำเช่นเดียวกันกับที่บริเวณปลายแหลมหัวระเกด หาดยาว และหินแพ นอกจากนี้ยังมีเวิ้งอ่าวคู่ที่มีความสวยงาม ติดอันดับโลกของอ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัม ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่พักจำนวนมาก บริการแก่นักท่องเที่ยวทั่วไป
หมู่เกาะมัน-จังหวัดระยอง
หมู่เกาะมัน เกาะมันนอก เกาะมันกลาง เกาะมันใน
เกาะมันนอก เป็นเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งในหมู่เกาะมัน ที่ตั้งเรียงกันอยู่ในอ่าวแกลง จ.ระยองตัวเกาะมีลักษณะเกือบกลม และสามารถเดินรอบเกาะ เพื่อชมทิวทัศน์อันสวยงามได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทางด้านหน้าของตัวเกาะ ซึ่งเป็นทิศใต้และทิศตะวันออก จะมีโค้งหาดทรายเล็กๆ และเป็นที่ตั้งของบังกะโล และเรือนอาหาร ที่ เกาะมันนอกนั้น นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำชมความงามของปะการัง ต่างๆ ที่ขึ้นอยู่ใต้น้ำรอบๆ เกาะมันนอก และเกาะมันนอก อยู่ห่างจาก เกาะเสม็ด เป็นระยะทาง ประมาณ 30 กิโลเมตร
เกาะมันนอก
บนเกาะมันนอก มีรีสอร์ทเพียงรีสอร์มเดียวเท่านั้น คือ Munnork Island Resort มันนอกไอส์แลนรีสอร์ท

เกาะมันใน เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีพระราชประสงค์ให้เกาะมันในเป็นที่ดำเนินการโครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เกาะมันในมีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน ซึ่งมีปะการังสวยงาม การเดินทางไปเกาะมันในสามารถเช่าเรือได้ที่แหลมแม่พิมพ์ หรือปากน้ำประแสร์ ติดต่อรายละเอียดที่สถานีเพาะเลี้ยงพันธุ์เต่าทะเล โทร. (038) 616096, 657466

เกาะมันใน มีพื้นที่ประมาณ 131 ไร่ มีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน โดยเฉพาะที่อ่าวหน้าบ้านมีปะการังที่สวยงาม ส่วนอ่าวโกงกางมีทรายเรียบ เกาะมันในมีความสำคัญเนื่องจากเป็นที่ดำเนินการโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล มีพันธุ์เต่าตนุ และเต่ากระ ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปิดให้เข้าชม เวลา 8.00–18.00 น.
 เกาะมันในอยู่ห่างจากแหลมแม่พิมพ์ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที สามารถเช่าเรือจากแหลมแม่พิมพ์ หรืออ่าวมะขามป้อมก็ได้ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย ฝั่งทะเลตะวันออก เกาะมันใน โทร. 0 3861 6096, 0 3865 7466 
เกาะกูด-จังหวัดตราด

เกาะกูด เป็นเกาะสุดท้ายในน่านน้ำทะเลตราด เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย เขตจังหวัดตราด อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และความงดงามของหาดทราย สายน้ำ ลำธาร น้ำตก และแนวปะการังใต้ท้องน้ำ มีสถานที่น่าสนใจ เช่น

น้ำตกคลองเจ้า หรือน้ำตกธารสนุก เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อของ เกาะกูด มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นบนมีลักษณะเป็นลำธาร ส่วนชั้นล่างเป็นธารจากน้ำตกขนาดใหญ่ เหมาะแก่การเล่นน้ำเป็นอย่างมาก น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 ทรงพระราชทานนามเพื่อเป็นที่ระลึกถึงองเชียงสือว่า "น้ำ

เกาะกูด ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของไทย ทางทิศใต้ของเกาะติดกับน่านน้ำกัมพูชาเป็นเกาะสุดท้ายในน่านน้ำทะเลตราด ครอบคลุมพื้นที่ 105 ตร.กม.มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในตราด รองจากเกาะช้าง นอกจากนี้บน เกาะกูด ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหาดทรายและน้ำทะเลใสสีมรกต จนได้รับการขนานนามว่า "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพักผ่อน เช่น หาดตะเภา หาดคลองเจ้า หาดคลองระหาน หาดคลองหิน หาดพร้าว.

ในแต่ละหาดจะมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว แต่นักท่องเที่ยวหลายคนมักคิดว่าการเดินทางไป เกาะกูด ก็เหมือนเกาะช้าง ไป เกาะกูด ส่วนไหนก็ได้ เดี่ยวค่อยเลือกหารีสอร์ทที่พัก แต่หารู้ไม่ว่า แต่ละรีสอร์ทตั้งอยู่คนละหาด การเดินทางควรจองห้องพักไว้ก่อน และสอบถามว่ารีสอร์ทนั่นขึ้นเรือที่ท่าเรือไหน เพราะแต่ละรีสอร์ทจอดเรือรับลูกค้าคนละที่กัน
ฤดูท่องเที่ยวบนเกาะกูด

ฤดูกาลที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว คือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงต้นพฤษภาคม เนื่องจากปลอดลมมรสุม

แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะ

เกาะกูด มีหาดทรายขาวสะอาดสวยงาม เต็มไปด้วยดงมะพร้าวเรียงรายอยู่ด้านตะวันตก เช่น อ่าวคลองยายกี๋ (มีน้ำตก 1 แห่ง) อ่าวตะเภา อ่าวคลองเจ้า (มีคลองและป่าชายเลนสมบูรณ์) อ่าวง่ามโข่ อ่าวคลองหิน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขา เชิงเขามีสวนมะพร้าวและป่าชายเลน หาดส่วนใหญ่อยู่ทางด้านตะวันตก หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด มีคลองเจ้าเป็นธารน้ำสายสำคัญหล่อเลี้ยงชีวิตบนเกาะ ซึ่งมีป่าชายเลนที่สวยงามและสมบูรณ์มาก

อ่าวตะเภา เป็นที่ตั้งของ เกาะกูด คาบาน่า เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบน เกาะกูด

อ่าวกล้วย หาดทรายขาวละเอียดมี เกาะกูด ไอร์แลนดรีสอร์ท อ่าวยายเกิดตั้งอยู่ใกล้ๆ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม แหล่งหญ้าทะเลที่อาศัย ของสัตว์น้ำ นานาชนิด เป็นจุดชมนกชนิดต่างๆของ เกาะกูด เช่น นกปรอดหัวจุก และนกอพยพชนิดต่างๆ

อ่าวสลัด อ่าวโค้งรูปตัวยูเป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านเรือนชาวประมงที่ใหญ่แห่งหนึ่งของเกาะ มีสินค้าของฝากจากทะเล


อ่าวคลองเจ้า นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวน้ำตกคลองเจ้าได้ โดยนั่งเรือชมธรรมชาติสองฝั่งไปตามคลองเจ้า และต่อด้วยการเดินเท้าอีกเล็กน้อย เป็นน้ำตกที่นับว่าสวยที่สุดบนเกาะ นักท่องเที่ยวอาจจะได้ชมแสงน้อยๆ จากเหล่าหิ่งห้อยที่อยู่ตรงป่าโกงกางนี้ ยามค่ำคืน มีปีเตอร์แพนรีสอร์ท คลองจ้าวรีสอร์ทและใบกูดแซมบาล่าให้เลือกพักพิง

อ่าวง่ามโข่ มีชายหาดขาวทอดยาว เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม การเดินทางก็สะดวกสบาย หาดทรายแดง มีชายหาดเล็กๆ ไม่ยาวนัก พื้นทรายที่หาดนี้มีสีเข้มกว่าหาดอื่นๆ อันเป็นที่มาของหาดทรายแดง บรรยากาศร่มรื่น เป็นส่วนตัว

หาดบังเบ้า หาดทรายยาวโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เหมาะกับการเล่นน้ำ ด้านหลังเป็นคลองบังเบ้า ที่นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัก ชมป่าชายเลนได้

อ่าวพร้าว ชายหาด เกาะกูด อ่าวพร้าว รีสอร์ทเป็นอ่าวสุดท้ายใต้สุดของเกาะ มีชายหาดยาวที่สุด เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม บรรยากาศร่มรื่น โรแมนติก นอกจากนี้ ยังเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นเหมือนของบิดาแห่งกองทัพเรือไทย หรือกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
จุดดำน้ำที่น่าสนใจ เกาะยักษ์ เกาะรัง และ เกาะกระ เป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยงาม มีปลาเล็กๆ ว่ายเวียนอยู่ตามแนวปะการัง บนเกาะรังมีหาดทรายหลายแห่'

เกาะล้าน-จังหวัดชลบุรี
เกาะล้าน หรือที่รู้จักกันในนามเกาะปะการังนั้นเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก เหตุที่เรียกเกาะล้านว่าเกาะปะการังนั้นเนื่องจากใต้ทะเลของบริเวณเกาะดังกล่าวเต็มไปด้วยปะการังที่สวยงามและหลายชนิด และประกอบไปด้วยหมู่เกาะเล็ก ๆ ซึ่งรวมถึง เกาะครก และเกาะสาก เกาะล้านนั้นเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการดำน้ำดูปะการัง (สน็อร์กเกิล) และหาดทรายสีขาว ทะเลสีน้ำเงินเข้มไปถึงสีเขียวน้ำทะเล ที่ทำให้นึกถึงทะเลอันดามัน เกาะล้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากพัทยาและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

เกาะล้าน อยู่ห่างชายฝั่งพัทยา 7 กิโลเมตร นั่งเรือโดยสาร 45 นาที หากเดินทางโดยเรือเร็วใช้เวลาเพียง 15 นาที มีพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เรือลากร่มชูชีพ เรือสกี สกู๊ดเตอร์ โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น บริเวณเกาะล้าน และเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เช่น เกาะครก และเกาะสาก เป็นแหล่งตกปลาดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น และเป็นสถานที่ฝึกหัดเรียนดำน้ำ 
เกาะล้าน ตั้งอยู่ในแนวขนานกับหาดพัทยา อยู่ห่างจากอ่าวระยะทาง 7.5 กิโลเมตร ตัวเกาะกว้าง 2 กิโลเมตร ยาว 5 กิโลเมตร เกาะล้านมีหาดทรายขาวนวลเม็ดทรายละเอียด มีแนวปะการังมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือหางยาวท้องกระจกหรือดำน้ำดูปะการังได้ ซึ่งมีหาดทรายที่เลื่องชื่อ ได้แก่ หาดตาแหวน อยู่ทางเหนือของเกาะ มีหาดทรายยาวประมาณ 750 เมตร เป็นหาดที่มีร้านค้าต่างๆ มากมาย เรือท่องเที่ยวมักมาจอดบริเวณนี้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีหาดทรายขาวและสวยงาม หาดแหลมเทียน และหาดแสม อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะล้าน หาดทรายยาวประมาณ 700 เมตร และ 100 เมตร ตามลำดับจัดเป็นหาดที่สวยงามและน่าประทับใจอีกแห่งหนึ่งของเกาะ โดยเฉพาะบริเวณแหลมเทียน มีความเงียบสงบและสะอาด ปัจจุบันมีร้านค้าไว้บริการนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง หาดตาพัน อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ หาดยาวประมาณ 500 เมตร บนหาดมีเพิงพักชั่วคราว สำหรับนักท่องเที่ยวเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุด เรือท่องเที่ยวมัก มาจอดบริเวณหน้าหาดตลอดไปจนถึงแหลมเทียนและหมู่เกาะใกล้เคียง ซึ่งจะมีปะการังอยู่โดยตลอด หาดนวล อยู่ทางทิศใต้ของเกาะ ชายหาดยาวประมาณ 450 เมตร เป็นหาดที่มีโรงแรมตั้งอยู่ มีนักท่องเที่ยวมาพักมากพอสมควรบริเวณนี้เป็นแหล่งดูปะการังอีกแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวนิยมดูปะการัง จัดเป็นหาดที่น่าสนใจอีกหาดหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังมี หาดแหลมหัวโขนด้านหน้า-หลัง แหลมทองหลาง แหลมถ้ำแร่ ฯลฯ ที่เป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สำหรับกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นกันที่เกาะล้าน ได้แก่ เล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นเรือลากร่มชูชีพ เรือสกี เรือสกู๊ดเตอร์ เป็นต้

ชาดหาดเกาะล้าน

หาดตาแหวน อยู่ทางเหนือสุดของเกาะล้าน ที่ๆคุณจะพบกับหาดตาแหวนที่โด่งดังกับหาดทรายสีทองที่ยาวถึง 750 เมตรที่ทอดตัวไปกับชายฝั่ง พร้อมกับทรายสีขาวแวววาวที่ตัดกันกับน้ำสีฟ้าใส ชายหาดนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเอเซีย นอกจากจะเพลินเพลินไปกับการว่ายไปในน้ำสีฟ้าใส คุณยังสามารถเพลินเพลินไปกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เช่น บานาน่าโบ๊ท และเจ็ทสกี

หาดทองหลาง ชายหาดขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ สถานที่ที่ควรไปสำหรับผู้ที่แสวงหาความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศในการพักผ่อน คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการสน็อร์กเกิลได้หลายทาง การดำนำดูปะการังน้ำตื้นนั้นมีการให้บริการเรือดำน้ำกระจกด้วย ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบปะการังสามารถเพลิดเพลินไปกับการดูปะการังใต้น้ำได้อีกหนทางหนึ่ง ค่าบริการอยู่ที่ 1,500 บาทต่อหนึ่งท่าน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการสน็อร์กเกิลนั้นมีเรือดำน้ำกระจกให้บริการอยู่ที่หาดทองหลาง ที่จะพาท่านไปชมปะการังโดยที่ตัวท่านไม่เปียกน้ำ

หาดสังวาล หาดสังวาลเป็นหาดเล็ก ๆ มีความยาวประมาณ 150 เมตร อยู่ติดกัยหาดตาแหวง หาดสังวาลนี้มีความงดงามไม่แพ้หาดตาแหวงและมีความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ

หาดเทียน หาดเทียนนั้นทอดตัวยาว 500 เมตรไปทางตะวันตกของเกาะล้าน เป็นที่ชื่นชอบของชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวยุโรป หาดเทียนนี้มีกีฬาทางน้ำหลายชนิดเช่น เจ็ทสกี บานาน่าโบ๊ท แต่สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยในการเล่นดังกล่าวเท่าหาดตาแหวน หาดเทียนนี้เงียบสงบ และเต็มไปด้วยครอบครัวที่มาพักผ่อน โดยทั่วไปแล้วนักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมที่ผ่อนคลายต่าง ๆ เช่น ว่ายน้ำ กระดานโต้คลื่น อาบแดด และนวดแผนโบราณ

สำหรับการค้างคืนที่หาดเทียนนั้น มีการให้บริการทั้งให้เช่าบังกาโล และเต็นท์ หากคุณมองหาที่พักที่สะดวกสบายแล้วละก็ หาดแสมนั้นเหมาะมากกว่า

หาดแสม หาดแสมมีชายหาดที่ยาวถึง 300 เมตรได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เนื่องจากมีจุดชมวิวเขานมซึ่งคุณสามารถชมพระอาทิตย์ตก และเมืองพัทยา
หาดนวล หาดนวลตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะล้าน มีชาดหาดส่วนตัวที่ยาวถึง 250 เมตร มีโรงแรมให้บริการตลอดชายหาด
หมู่เกาะอ่างทอง-จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ทะเลใน หนึ่งเดียวในอ่าวไทย

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นหมู่เกาะในอ่าวไทยท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากเกาะสมุยและเกาะพะงันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ประมาณ 40 เกาะ ตามเกาะต่างๆ จะมีหาดทรายอยู่เกือบทุกเกาะ บางเกาะหาดทรายมีสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ บางเกาะมีปะการังตามชายทะเลหลายชนิด สีสวยงามหลากสี อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีเนื้อที่ประมาณ 63,750 ไร่ หรือ 102 ตารางกิโลเมตร

      บริเวณ หมู่เกาะอ่างทอง แต่เดิมเป็นพื้นที่หวงห้ามของกองทัพเรือซึ่งมีโครงการจะสร้างฐานทัพเรือเพื่อควบคุมความปลอดภัย ของประเทศทางด้านอ่าวไทย แต่ด้วยมีทิวทัศน์สวยงาม ทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น นกนานาชนิด และแนวปะการัง เป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2518 นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี นักวิชาการป่าไม้ตรี กองอุทยานแห่งชาติ ได้เขียนบทความสารคดีเรื่อง หมู่เกาะอ่างทอง อุทยานแห่งชาติทางทะเล ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 29 มิถุนายน 2518 สรุปสาระสำคัญว่า ควรจัดหมู่เกาะอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ประกอบกับกองอุทยานแห่งชาติได้มีโครงการอยู่แล้วเช่นกัน และคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2518 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2518 ให้กรมป่าไม้พิจารณาจัดหมู่เกาะอ่างทองเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกแห่งหนึ่ง
ในปี พ.ศ. 2518 กองอุทยานแห่งชาติ ได้มีบันทึกที่ กส.0708/915 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2518 เสนอกรมป่าไม้ ให้นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี นักวิชาการป่าไม้ตรี ไปทำการสำรวจ ปรากฏว่า หมู่เกาะอ่างทอง ประกอบด้วยเกาะประมาณ 40 เกาะ มีทิวทัศน์สวยงาม ทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น และนกนานาชนิด ปะการัง เป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2519 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2519 ให้กรมป่าไม้ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับหมู่เกาะอ่างทองกับกระทรวงกลาโหม และทำการตรวจสอบที่ดินบริเวณดังกล่าว กองอุทยานแห่งชาติ ได้มีหนังสือที่ กส.0708/1613 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2519 เสนอกรมป่าไม้ให้ นายสินไชย บูรณะเรข นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปดำเนินการตามมติคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และกระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือที่ กห. 0352 / 26927 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2519 ไม่ขัดข้องในการที่กรมป่าไม้จะกำหนด หมู่เกาะอ่างทอง เป็นอุทยานแห่งชาติ

แหล่งท่องเที่ยว

ทะเลใน หรือทะเลสาบกลางภูเขาอยู่บนเกาะแม่เกาะ เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาหินปูนที่สูงสลับ ซับซ้อนแต่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับทะเล การกำเนิดของทะเลสาบน้ำเค็มนี้ได้มีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการยุบตัวของหินชั้นล่างทำให้เกิดบ่อยุบ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆกับหมู่เกาะ หรืออาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในกระบวนการเดียวกับการเกิดถ้ำ

เกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง เป็นจุดที่มีแนวปะการังและหาดทรายขาวสะอาด

เกาะวัวตาหลับ อยู่บริเวณอ่าวคาเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านหน้าของที่ทำการฯ เป็นหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ นอนเล่นพักผ่อนริมหาด เมื่อขึ้นไปจุดชมวิวบนยอดเขา ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทั้งหมดที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวด้วยรูปร่างต่างๆ แปลกตา นอกจากนี้ยังมีถ้ำบัวโบกซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นแหล่งที่มีความแปลกและเด่นทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะหินงอกหินย้อยรูปร่างสวยงามดูคล้ายดอกบัวบาน

เกาะสามเส้า ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาะแม่เกาะ เป็นแหล่งปะการังที่สวยงาม และมีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกไปในทะเล มีหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การตั้งแค็มป์พักแรมและว่ายน้ำชมปะการัง
ป่าชายหาด เป็นป่าโปร่งขึ้นบริเวณแคบๆ ตามชายหาดและเชิงเขาชายทะเลทั่วไปของเกาะต่างๆ พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ หูกวาง โพทะเล กระทิง ปอทะเล จิกทะเล สนทะเล รักทะเล มะเดื่อป่า ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เตยทะเล พลับพลึง กะทกรก และผักบุ้งทะเล เป็นต้น

"ป่าเขาหินปูน พบในบริเวณเขาหินปูนที่มีชั้นดินน้อย พืชที่ขึ้นเป็นพืชขนาดเล็ก เช่น จันทน์ผา เป้ง สลัดได พลับพลึง บุก ปอทะเล เกด เชียด และยอป่า เป็นต้น

ป่าชายเลน พบอยู่น้อยมากบริเวณซอกหินที่มีหาดทรายหรือหาดเลนในวงรอบของทะเลในของเกาะแม่เกาะ และทางทิศตะวันออกของเกาะพะลวยในบางอ่าวที่เว้าเข้าไปในแผ่นดิน พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่เป็นโกงกางใบเล็ก

หมู่เกาะสุรินทร์-จังหวัดพังงา

พระยาสุรินทราชา เทศาเมืองภูเก็ต (นามเดิมนกยูง วิเศษกุล) เป็นผู้ค้นพบเกาะและตั้งชื่อ หมู่เกาะสุรินทร์ เมื่อครั้งที่ท่านมาสำรวจ ทะเลฝั่งอันดามัน ที่ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2514 กรมป่าไม้จึงได้ประกาศให้พื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันและอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า ห่างจากฝั่งทะเลด้านตะวันตกของไทยประมาณ 70 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มีเนื้อที่ประมาณ 84,375 ไร่ หรือ 135 ตารางกิโลเมตร

ความเป็นมา : กรมป่าไม้ได้ประกาศให้หมู่เกาะสุรินทร์ ท้องที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นป่าสงวนแห่งชาติเมื่อ 30 ธันวาคม 2514 ต่อมาคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าได้มีมติในที่ประชุมครั้งที่ 1/2519 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2519 เห็นชอบในหลักการที่จะกำหนดให้หมู่เกาะสุรินทร์เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งกรมป่าไม้ได้ติดต่อประสานงานไปยังกรมทรัพยากรธรณี ได้รับแจ้งว่า หมู่เกาะสุรินทร์อยู่ในเขตสัมปทานปิโตรเลี่ยม แปลงที่ ตก. 9 W1 ของบริษัท WEEKS PETROLEUM จึงขอให้ระงับการประกาศเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไว้ก่อน และบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ยังเคยถูกเสนอให้ใช้เป็นค่ายญวนอพยพ แต่เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทั้งบนบกและในทะเล ประกอบกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เหมาะที่จะจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาหาความรู้ในด้านธรรมชาติ กรมป่าไม้จึงได้คัดค้านไม่เห็นด้วย

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการสำรวจบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์อีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า มีทิวทัศน์ทางทะเลที่สวยงาม มีปะการัง สภาพป่าที่สมบูรณ์ หาดทรายขาวสะอาด และนกนานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2523 เห็นสมควรกำหนดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นอุทยานแห่งชาติซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 ตอนที่ 112 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 29 ของประเทศไทย

หมู่เกาะสุรินทร์ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 29 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 มีขนาดพื้นที่ 135 ตารางกิโลเมตร (84,357 ไร่) เป็นพื้นที่เกาะร้อยละ 24 ที่เหลือเป็นทะเล ประกอบด้วย 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี (สต็อคหรือไฟแว๊บ) เกาะกลาง (ปาจุมบาหรือมังกร) และเกาะไข่ (ตอรินลา) บริเวณใกล้เคียงยังมีหินแพและหินกอง และทางทิศตะวันออก ห่างจากเกาะประมาณ 14 กิโลเมตร มีกองหินโผล่น้ำที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องการดำน้ำลึกชื่อว่า ริเชลิ่ว ปัจจุบันกำลังผนวกเข้ากับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

หมู่บ้านชาวเลหรือมอแกน ตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้ชายหาดบริเวณอ่าวไทรเอน เกาะสุรินทร์เหนือ ประมาณ 130-150 คน ชาวเลหรือมอแกนเป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะของทะเลอันดามัน ตั้งแต่เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย เรื่อยไปจนถึงเกาะสุมาตราในประเทศอินโดนีเซีย มอแกนเป็นชนเผ่าที่มีวิถีการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมหาเลี้ยงชีพโดยการงมหอย แทงปลา โดยในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน มอแกนจะอาศัยอยู่บนเรือที่เปรียบเสมือนบ้าน แต่พอถึงช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน จะเปลี่ยนที่อยู่มาอาศัยอยู่บนบกที่มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์

       เรือของชาวมอแกนแบบดั้งเดิม มี 2 ประเภท ประเภทที่ 1 เป็นเรือขนาดใหญ่ สร้างขึ้นจากไม้ประมาณ 3-4 ต้น ใช้เวลาสร้างประมาณ 60 วัน ใช้แรงงานคนประมาณ 20 คน ประเภทที่ 2 เป็นเรือขนาดเล็ก ใช้ไม้เนื้ออ่อนเจาะด้วยขวาน ใช้เวลาสร้างประมาณ 5 วัน ใช้แรงงานคนประมาณ 3 คน โดยวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบเรือทั้ง 2 ประเภท จะใช้วัสดุและอุปกรณ์เช่นเดียวกัน คือ ไม้ขนุนปานหรือไม้ระกำ ขวาน ใช้สลักไม้แทนตะปู ใช้หวาย ใบเตย หรือใบค้อ กระสอบป่านแทนหมันและน้ำมันยาง

      วิถีชีวิตของชาวมอแกน อาศัยการนับเวลาจะสังเกตจากดวงจันทร์ พวกเขามีความเชื่อในเรื่องของภูตผีและวิญญาณบรรพบุรุษ โดยในเดือนเมษายนของทุกปี กลุ่มชาวเลที่อยู่กระจัดกระจายตามเกาะต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงและในประเทศพม่าจะมารวมตัวกันที่หมู่เกาะสุรินทร์ เพื่อประกอบพิธี "ลอยเรือ" อันเป็นการบวงสรวงผีและวิญญาณของบรรพบุรุษ อีกทั้งเป็นการสะเดาะห์เคราะห์ให้ปลอดภัยและแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง จึงถือได้ว่าชาวมอแกนเป็นชนเผ่าที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้มากที่สุด

อ่าวเต่า อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 2 กิโลเมตร เป็นแนวปะการังริมเกาะ กว้าง 50 - 200 เมตร แนวปะการังหักชันลงที่ลึก 20 - 25 เมตร อย่างรวดเร็ว บริเวณด้านในของแนวปะการังจะพบกับปะการังขนาดเล็ก บริเวณตรงกลางของแนวปะการังพบปะการังหลากหลายชนิด สำหรับบริเวณขอบแนวปะการังพบปะการังก้อนขนาดใหญ่ มีปะการังอ่อนและกัลปังหาอยู่เป็นหย่อมๆ ในที่ลึก สัตว์เด่นบริเวณนี้ คือ เต่ากระ นอกจากนี้ยังมีสัตว์หลากหลายชนิด แม้แต่กระเบนราหูหรือฉลามวาฬ ก็เคยมีนักดำน้ำแบบดำผิวน้ำพบเห็นในบริเวณนี้เช่นกัน

อ่าวผักกาด เป็นอ่าวเล็กๆ อยู่ทางทิศใต้ของเกาะสุรินทร์ใต้ เลยอ่าวเต่าไป อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 5 กิโลเมตร แนวปะการังริมฝั่งกว้างประมาณ 50 - 150 เมตร มีชายหาดเล็กๆ แนวปะการังหักชันตรงขอบลงสู่ความลึก 15 -20 เมตร ด้านล่างเป็นพื้นทราย สามารถพบเห็นปะการังอ่อนและกัลปังหาได้บ้าง

      อ่าวผักกาดเป็นจุดที่มีปะการังหลากหลายชนิดในพื้นที่แคบๆ พบทั้งปะการังก้อน แผ่นตั้ง แผ่นนอน เขากวาง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ทะเลที่น่าสนใจ เช่น ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในน้ำลึก อาจทำให้มองเห็นไม่ชัดสำหรับผู้ที่ชอบดำน้ำแบบผิวน้ำ ที่นี่มีปลาเกือบทุกชนิดที่พบในหมู่เกาะเกาะสุรินทร์ มาดำน้ำที่อ่าวผักกาดจึงต้องสังเกตปลาเป็นหลัก โดยเฉพาะปลาผีเสื้อ และปลาสินสมุทร เพราะที่นี่มีปลาสองกลุ่มนี้หลากหลายมาก


เกาะปาจุมบา เกาะปาจุมบา หรือเรียกอีชื่อหนึ่งว่า เกาะมังกร มีอ่าวมังกรอยู่ทางทิศตะวันออกเกาะ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 5 กิโลเมตร พื้นที่นี้เป็นพื้นที่สงวนสำหรับการอนุรักษ์เต่าทะเล บรเวณนี้น้ำไม่ลึก ยกเว้นด้านเหนือของเกาะ มีแต่กองหินใต้น้ำ ไม่มีปะการังอ่อนหรือกัลปังหา บางครั้งมีกระแสน้ำรุนแรง ไม่เหมาะสำหรับการดำน้ำ

อ่าวไม้งาม อ่าวไม้งาม อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะสุรินทร์เหนือ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 2 กิโลเมตร ด้านตะวันตกของอ่าวเป็นแนวปะการังในอ่าวใหญ่ ขอบแนวปะการังห่างฝั่ง 200 - 500 เมตร การเดินทางไปอ่าวแห่งนี้ ทำได้ 2 แบบ คือ เดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติหาดไม้งาม ความยาว 2,000 เมตร อีกแบบหนึ่งคือนั่งเรือ แต่เรือไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าอ่าวไม้งาม เนื่องจากน้ำตื้นมาก จึงต้องไปจอดเรือที่หาดเล็กๆ ก่อนเดินทางเท้าต่อไปอีก 200 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสเดินชมป่า ก่อนที่จะไปดำน้ำริมหาด บริเวณอ่าวไม้งามเป็นหาดทรายธรรมชาติที่งดงาม มีปูเสฉวนจำนวนมาก บางช่วงฤดูอาจพบเห็นนกขุนทองทำรังบนต้นไม้

เกาะตอรินลา หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะไข่ อยู่ทางทิศใต้ของเกาะสุรินทร์ใต้ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 6 กิโลเมตร เกาะตอรินลาเป็นจุดดำน้ำชั้นยอดของหมู่เกาะสุรินทร์ บางคนเรียกกองเหลือง บริเวณนี้มีทั้งแนวปะการังและกองหินใต้น้ำสลับกัน จัดเป็นจุดดำน้ำที่ใหญ่มาก กินอาณาเขตเกือบทั่วร่องน้ำระหว่างเกาะตอรินลากับเกาะสุรินทร์ใต้ มีดงปะการังเขากว้างที่กว้างใหญ่ มีปลาสวยงามมากมาย มากกว่า 200 ชนิด เช่น ปลาไหลสวน ฉลามครีบเงิน ฉลามเสือดาว กระเบนหางแส้ กะรังหน้างอน ฝูงปลาค้างคาว ปลากระตั้ว ปลาไหลริ้บบิ้น เป็นต้น และที่โดนเด่นคือ มีปลากระโทงแทงกระโดดให้เห็นกันบ่อยๆ ถือเป็นจุดชมปลากระโทงแทงชั้นเยี่ยมแห่งหนึ่งของทะเลไทย ข้อควรระวังสำหรับนักดำน้ำ คือ บริเวณร่องน้ำเกาะตอรินลา มีกระแสน้ำอันรุนแรง บางครั้งไหลวน จึงควรดำน้ำความความระมัดระวัง

อ่าวจาก  อยู่ด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์เหนือ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 10 กิโลเมตร เป็นแนวปะการังในอ่าวใหญ่ ขอบปะการังห่างฝั่ง 200 - 400 เมตร ด้านในเป็นปะการังเขากวาง ปะการังพุ่ม ปะการังกิ่ง ด้านนอกมีปะการังก้อนสลับกับปะการังเขากวางกว้างใหญ่ สัตว์ใต้ทะเลส่วนมากเป็นปลาสวยงาม สัตว์ใหญ่ๆ มีน้อย

อ่าวสุเทพ อยู่บนเกาะสุรินทร์ใต้ เป็นอ่าวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะนี้ มีแนวประการับยาวถึง 1,200 เมตร ห่างจากฝั่ง 200 - 500 เมตร หรือมากกว่านั้น ด้านในของแนวปะการังเป็นปะการังขนาดเล็กปนเศษปะการัง ด้านนอกของแนวเป็นปะการังก้อนขนาดใหญ่สลับกับปะการังแผ่นนอนใหญ่มาก ขอบแนวปะการรังลาดลงสู่พื้นทราย ความลึก 15 เมตร สามารถพบเห็นปะการังอ่อนและกัลปังหา หอยมือเสือ และปลาสวยงามอ่าวสุเทพอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่พักของอุทยานแห่งชาติ (อ่าวช่องขาด) แต่มีนักท่องเที่ยวน้อย เพราะเรือวิ่งข้ามช่องขาดมาได้เฉพาะช่วงน้ำขึ้น อ่างสุเทพจึงค่อนข้างสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว
หมู่เกาะลันตา-จังหวัดกระบี่

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

มีเนื้อที่ประมาณ 152 ตารางกิโลเมตร ในอำเภอเกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ที่สำคัญได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ เกาะลันตาน้อย เกาะตะเล็งเบ็ง และเกาะใกล้เคียง รวมไปถึงหมู่เกาะห้า หมู่เกาะรอก และเกาะไหง
เกาะที่น่าท่องเที่ยวของอุทยานฯ ได้แก่

เกาะลันตาน้อย เป็นเกาะที่เป็นชุมชนของชาวเกาะลันตาในอดีตมาก่อน มีที่ว่าการอำเภอ มีโรงเรียนวิถีชีวิตแบบเก่า ๆ บ้านเรือนโบราณยังมีให้พบเห็น

เกาะลันตาใหญ่ มีรูปร่างยาวเรียวจากเหนือมาใต้ ศูนย์กลางธุรกิจของเกาะอยู่ที่บริเวณท่าเรือศาลาด่านซึ่งมีทั้งบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ธนาคาร ด้านตะวันตกเรียงรายไปด้วยชายหาดและอ่าวที่สวยงามมากมายได้แก่ หาดคอกวาง หาดโละบารา อ่าวพระแอะ หาดคลองโขง หาดคลองนิน และมีถนนตัดจากท่าเรือตอนเหนือผ่านชายหาดต่าง ๆ ไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาซึ่งอยู่ตอนใต้สุดของเกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะมีสภาพเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยป่าที่สมบูรณ์ ส่วนด้านตะวันออกมีชุมชนเก่าของเกาะลันตาเนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอมาก่อน ซึ่งย้ายไปอยู่ที่เกาะลันตาน้อย ชาวบ้านส่วนใหญ่บนเกาะลันตานับถือศาสนาอิสลาม และที่บ้านสังกะอู้ยังมีชนพื้นเมืองที่ยังคงยึดถือวัฒนธรรมประเพณี ได้แก่ ประเพณีลอยเรือ ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มีจุดชมวิว แหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งของประภาคาร จากมุมนี้สามารถมองเห็นโค้งอ่าวกรวดและอ่าวหาดทรายขาวสะอาดมาบรรจบกัน ตอนปลายสุดของแหลมเป็นที่ตั้งของเกาะหม้อ เป็นจุดดำดูปะการังน้ำลึก นอกจากจุดชมวิวแหลมโตนดแล้ว ยังมีจุดชมวิวบนยอดเขาบริเวณตอนกลางเกาะที่มีร้านอาหารสามารถนั่งรับประทานอาหารพร้อมกับชมทิวทัศน์ของทะเลอันดามันที่มีเกาะต่าง ๆ อยู่ท่ามกลางผืนน้ำสีน้ำเงิน 
เกาะตะละเบ็ง อยู่ระหว่างท่าเรือคลองม่วง-เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูน คล้ายเกาะพีพีเล มีชายหาดเล็กๆ และโพรงถ้ำซึ่งจะโผล่ให้เห็นได้เฉพาะเวลาน้ำลง มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่บนเกาะด้วย ในกลุ่มนี้จะมีเกาะผีซึ่งอยู่ไปทางทิศเหนือ และยังเป็นที่สามารถพายเรือแคนูได้

เกาะรอกใน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ย่อยของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ด้านทิศตะวันออกมีหาดทราย และแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า ผืนทรายที่เกาะรอกในละเอียดขาวเนียน น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวจนมองเห็นปลาหลากสีสัน เป็นความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ยังไม่มีใครเดินทางมาสัมผัสมากนัก บนเกาะยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินออกกำลังกายดูพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ได้อีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะพักค้างแรม บนเกาะมีที่สำหรับกางเต็นท์ สนใจสอบถามข้อมูลได้จาก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา โทร. 0 7562 9018 - 9

เกาะรอกนอก ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ มีหาดทรายขาวละเอียด และแนวปะการังน้ำตื้น ด้านท้ายเกาะมีหาดทะลุและอ่าวม่านไทร
การเดินทางไปเกาะรอก นิยมเช่าเรือจากท่าเรือปากเมง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือใช้บริการนำเที่ยวด้วยเรือเร็วจากเกาะลันตา สามารถติดต่อได้จากบริษัททัวร์หรือสถานที่พักบนเกาะลันตาใหญ่

หมายเหตุ: ไม่แนะนำให้เช่าเรือหางยาวเดินทางไปเกาะรอกเนื่องจากระยะทางไกล อาจไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะในวันที่สภาพอากาศไม่ดี

เกาะไหง ทางทิศตะวันออกของเกาะประกอบด้วยหาดทรายยาว และมีปะการังด้านหน้าหาด นับเป็นแหล่งดูปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์แห่งหนึ่ง การเดินทาง สามารถเช่าเรือจากท่าเรือปากเมง จังหวัดตรังได้

หินแดง เป็นหินโสโครก อยู่ฝั่งด้านนอกของทะเลอันดามัน มีปะการังชนิดต่าง ๆ ที่สวยงามเหมาะสำหรับการดำน้ำ

เกาะห้า เป็นกลุ่มเกาะ 5 เกาะ เกาะห้าใหญ่มีรูปร่างคล้ายใบเรือ และเป็นจุดดำดู
เกาะหมาก-จังหวัดตราด

ไกลจากชายฝั่งที่ท่าเรือแหลมงอบออกไปยังท้องทะเลสีคราม 35 กิโลเมตร มีเกาะๆ หนึ่ง ที่เป็นเจ้าของหาดทรายสวยหลายหาด ร่มรื่นไปด้วยทิวมะพร้าว แม้จะเป็นเกาะไม่ใหญ่เท่าเกาะช้าง แต่ความสวยงามไม่น้อยหน้ากันเลย ที่สำคัญสำหรับผู้ที่ปรารถนาจะมีอาณาจักรส่วนตัวเกาะหมาก คือความฝันที่เป็นจริง

เกาะหมาก เป็นเกาะที่อยู่ในกิ่งอำเภอเกาะกูด มีถนนรอบเกาะ 27 กิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นพื้นราบ มีหาดทรายสวยๆ หลายหาด ยังมีเกาะบริวารรายล้อม เกาะหมาก อีกหลายเกาะ เช่น เกาะขาม เกาะระยั้งนอก เกาะระยั้งใน
เกาะหมาก เป็นเกาะขนาดใหญ่ อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,000 ไร่ มีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสวนมะพร้าว โดยรอบมีอ่าว ชายหาดที่สวยงาม และน้ำใสสะอาดหลายแห่ง เช่น บริเวณอ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง อ่าวผาด อ่าวแดง อ่าวส่วนใหญ่ บริเวณชายฝั่งรอบเกาะและเกาะใกล้เคียงพบแนวปะการังที่สมบูรณ์ และสวยงาม บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย

      ช่วงฤดูท่องเที่ยวเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤษภาคมชุมชนดั้งเดิมบนเกาะหมากส่วนใหญ่เป็นเขมรเชื้อชาติไทยที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อครั้งเมืองประจันตคีรีเขตร หรือเกาะกงเป็นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยมีหลวงพรหมภักดี ต้นตระกูลตะเวทิกุล เป็นผู้ควบคุมคนจีนบนเกาะกง คนบนเกาะส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน มีอาชีพเกษตรกรรมทำสวนยางพารา และสวนมะพร้าว จนเกาะหมากได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่สำคัญของจังหวัดตราด บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย
เกาะหมาก หรือ Koh Mak เป็นเกาะขนาดใหญ่ อยู่ระหว่างเกาะช้าง กับ เกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,000 ไร่ มีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสวนมะพร้าว โดยรอบมีอ่าว ชายหาดที่สวยงาม และน้ำใสสะอาดหลายแห่ง เช่น บริเวณอ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง อ่าวผาด อ่าวแดง อ่าวส่วนใหญ่ บริเวณชายฝั่งรอบเกาะและเกาะใกล้เคียงพบแนวปะการังที่สมบูรณ์ และสวยงาม บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย ช่วงฤดูท่องเที่ยวเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม - พฤษภาคม

เกาะหมาก มีชุมชนดั้งเดิมบน เกาะหมาก ส่วนใหญ่เป็นเขมรเชื้อชาติไทยที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อครั้งเมืองประจันตคีรีเขตร หรือเกาะกงเป็นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยมีหลวงพรหมภักดี ต้นตระกูลตะเวทิกุล เป็นผู้ควบคุมคนจีนบนเกาะกง คนบนเกาะส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน มีอาชีพเกษตรกรรมทำสวนยางพารา และสวนมะพร้าว จนเกาะหมากได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่สำคัญของจังหวัดตราด บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย

ท่าเรืออ่าวนิด : อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ เป็นท่าเรือประจำ เกาะหมาก มีร้านขายของชำ ถือเป็นศูนย์กลางของเกาะก็ว่าได้

อ่าวสวนใหญ่ : มีชายหาดที่สวยและทอดยาวที่สุดของ เกาะหมาก เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามร่มรื่นด้วยป่าสน และต้นมะพร้าว เล่นน้ำได้ เป็นที่ตั้งของ เกาะหมาก รีสอร์ต อยู่ใกล้กับ เกาะขาม ข้ามเรือไปเที่ยวได้

อ่าวขาว : ชายหาดขาวสะอาดสดชื่น สงบเงียบ เล่นน้ำได้ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่ง

อ่าวฮอลิเดย์ บีช : ตลอดแนวหาดร่มรื่นด้วยสวนมะพร้าว สงบเงียบ เล่นน้ำได้ เป็นที่ตั้งฮอลิเดย์ บีบ รีสอร์ต

อ่าวเลซี่เดย์ บีช : ชายหาดสวย เล่นน้ำได้ ร่มรื่นด้วยสวนมะพร้าว วิวสวย

จุดชมวิวเขาแผนที่ : เป็นบริเวณที่สูงสุดของ เกาะหมาก จึงเห็นวิวทั้งที่ราบเบื้องล่างของ เกาะหมาก และเกาะข้างเคียง
เกาะหมาก " มีพื้นที่ 13 ตารางกิโลเมตร (8,125 ไร่) ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้าง เกาะกูด ในท้องทะเลอ่าวไทย จังหวัดตราด อยู่ห่างจากเกาะช้าง 30 กิโลเมตร ห่างจากเกาะกูด 22 กิโลเมตร เกาะหมาก เป็น 1 ใน 9 เกาะ ของหมู่ เกาะหมาก ประกอบด้วย เกาะหมาก เกาะกระดาด เกาะระยั้งใน เกาะระยั้งนอก เกาะผี เกาะขาม เกาะนก เกาะนอก เกาะใน หมู่ เกาะหมากปัจจุบันขึ้นอยู่กับตำบล เกาะหมาก กิ่งอำเภอเกาะกูด มีอยู่เพียง 2 หมู่บ้าน คือหมู่ 1 บ้านอ่าวนิด หมู่ 2 บ้านแหลมสน ประชากรประมาณ 350 คน สภาพพื้นที่ เกาะหมาก เป็นที่ราบชายฝั่งและภูเขาสูงบางส่วน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนมะพร้าว สวนยางพารา และระยะหลัง 3-4 ปี ที่ผ่านมามีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยรอบ เกาะหมากจะมีหาดทรายขาวสะอาด โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นอ่าว 3-4 อ่าว คือ อ่าวสวนใหญ่ อ่าวพระ อ่าวขาว อ่าวนิด และที่หมู่เกาะใกล้ ๆ มีแหล่งปะการังที่สมบูรณ์ ดังนั้น เกาะหมาก จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของหมู่เกาะใน จังหวัดตราด ซึ่งในปัจจุบัน 2-3 ปีที่ผ่านมา " เกาะหมาก " ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นจำนวนมาก รองจากเกาะช้าง เกาะกูด คาดว่าในอนาคต เกาะหมาก จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดตราด ที่ใครต่อใครต้องการมาสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์และสวยงามที่นับวันจะหายากลงไปทุกที

เกาะไหง-จังหวัดตรัง

เกาะไหง เป็นอีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของทะเลตรัง แต่จริงๆ แล้วเกาะไหงอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ เช่นเดียวกับเกาะรอก เกาะไหงอยู่ห่างจากเกาะลันตา จ.กระบี่ เพียง 12 กิโลเมตร ห่างท่าเรือปากเมง จ.ตรัง 15 กิโลเมตร แต่การเดินทางจากปากเมงสะดวกกว่า และอีกอย่างคือเกาะไหงอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของทะเลตรัง ห่างจากเกาะม้าเพียง 1.5 กิโลเมตร ห่างเกาะเชือกเพียง 3 กิโลเมตร ดังนั้นเกาะไหงจึงถูกเหมารวมเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทะเลตรัง ตัวเกาะมีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

      บนเกาะมีหาดทราบขาว น้ำทะเลใสสะอาด รอบเกาะอุดมด้วยปะการังที่สมบูรณ์ การเดินทางไปเกาะไหง มีเรือโดยสาร ของแต่ละรีสอร์ทคอยให้บริการ เวลาออกจากท่าเรือปากเม็งขึ้นอยู่กับรีสอร์ทนั้นๆ โดยทั่วไปตั้งแต่ 10.30 น.-12.30 น.เป็นเรือเร็วใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที ราคาคนละ 450 บาท หรือถ้าเป็นเรือใหญ่จะออกเวลา 16.30 น. ราคาท่านละ 450 บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 45-60 นาที นอกจากนี้มีเรือหางยาวให้เช่าราคาเหมาลำประมาณลำละ 1,200 บาท เป็นเกาะที่อยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ แต่เดินทางจากจังหวัดตรังได้สะดวกกว่า บนเกาะมีหาดทรายขาว น้ำทะเลใสสะอาด รอบเกาะอุดมด้วยประการังที่สมบูรณ์ การเดินทางไปเกาะไหง มีเรือโดยสาร (ขนาด 120 ที่นั่ง) ออกจากปากเมงเวลา 09.00 - 10.00 น. ราคาคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง นอกจากนี้มีเรือของเอกชนให้เช่า เรือขนาดจุ 40 คน ราคา 5,000 บาท 100 คน ราคา 8,000 บาท นักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรมบนเกาะ
จุดท่องเที่ยวบนเกาะ

- แนวชายหาดด้านหน้าเกาะเหมาะสำหรับเล่นน้ำ เที่ยวชายหาด

- จุดดำน้ำชมปะการัง บริเวณปลายสุดด้านทิศใต้ของเกาะเป็นจุดดำน้ำชมปะการัง มีปะการังอ่อนและกัลปังหาที่สวยงาม

- หินกวนอิม อยู่บริเวณปลายสุดของแหลมด้านทิศใต้